มูเตลูแบบไหนที่พาไปทางมืด ? มูเตลูแบบไหนที่พาไปทางสว่าง ?
สวัสดีโยม…
อาตมาขอวางไว้ช้า ๆ…
ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าหยุดมู
แต่เพื่อให้เจ้า รู้ว่ากำลังเดินบนเส้นทางแบบใด
⸻
☸️ มูที่พาไปทาง “มืด”
คือ “มูที่พาให้ใจหลง…”
๑. มูที่ทำให้ อยากได้ มากขึ้น แต่ ไม่รู้จักพอ
เช่น ไหว้เพื่อรวย ไหว้เพื่อแฟนกลับ ไหว้เพื่อให้คนอื่นแพ้
เมื่อได้ไม่พอใจ… ก็ไหว้ใหม่
ไหว้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ไหว้ “ใจตัวเอง”
๒. มูที่แลกกับการ เบียดเบียน
เช่น ทำเสน่ห์ ผูกจิตคนอื่น
ใช้เวทมนตร์สะกดใจ
อ้างครูบาอาจารย์ แต่ใจแอบคิดร้าย
พระพุทธองค์ตรัสไว้ใน สัปปุริสธรรมสูตร (องฺ.สตฺตกนิบาต)
“สัตบุรุษ ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น”
⸻
๓. มูที่ทำให้ กลัวกว่าเดิม
กลัวผิดฤกษ์ กลัวเทพไม่พอใจ กลัวต้องไหว้ตลอดชีวิต
ศรัทธาแบบที่มีแต่ความกลัว… ไม่เรียกว่าศรัทธา
นั่นคือ “พันธนาการแห่งจิต”
๔. มูที่พาให้ หลงตัวตน
เห็นว่าตนมีฤทธิ์ เหนือคนอื่น
อวดว่ามูแล้วสมหวัง เลยดูแคลนคนที่ไม่เชื่อ
สุดท้าย… ขาดเมตตา
⸻
🪷 มูที่พาไปทาง “สว่าง”
คือ “มูที่พาให้ใจวาง…”
๑. มูที่เริ่มจาก ความศรัทธา ไม่ใช่ความกลัว
มูเพื่อเตือนตน มูเพื่อรวมใจ
ไม่ใช่มูเพื่อบงการชีวิตคนอื่น
เช่น สวดมนต์เพื่อสงบ ใส่เครื่องรางเพื่อเตือนตนให้มีสติ
๒. มูที่ ไม่พึ่งจนลืมเหตุปัจจัย
ไหว้… แต่ก็ยังทำหน้าที่
พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์… แต่ก็ไม่ลืมพึ่งสติ
เหมือนปลูกต้นไม้
ไหว้ขอฝนได้… แต่สุดท้ายก็ต้องรดน้ำเอง
⸻
๓. มูแล้ว “รู้” ว่าทุกอย่าง เกิดจากเหตุ
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร
ว่า “เมื่อมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงมี”
เมื่อรู้เหตุ ก็ไม่งมงาย
เมื่อรู้ผล ก็ไม่หลงหวังเกินเหตุ
⸻
๔. มูที่ “จบด้วยการวางใจ”
ไหว้แล้วสบาย ไม่ใช่เพราะได้
แต่เพราะใจเราได้ปล่อย
นั่นแล… มูที่พาใจเบา
มูที่ไม่หลอกตนเอง
⸻
🔎 มูไม่ได้ผิด… การหลงมูต่างหากที่พาไปทางมืด
อาตมา๐เปรียบให้ว่า:
🔥 มูเหมือนไม้ขีดไฟ
จะใช้จุดแสงเทียน… หรือเผามือ
ขึ้นอยู่ที่ “ใจคนจุด”
⸻
ถ้าเจ้ายังอยากมู… ก็จงมูอย่างมีสติ
แล้วหันมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ รู้ใจตัวเองควบคู่
เพราะสุดท้าย… “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ก็คือใจที่หยุดดิ้น”
Leave a Comment
You must be logged in to post a comment.