เป็นที่ตื่นตัวกันมากเกี่ยวกับเทคโนโลยี Cloud Storage หรือการเก็บข้อมูลของเราเอาไว้บนก้อนเมฆ ที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนในโลกนี้ แต่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ในโลก เช่นกัน

เทคโนโลยีนี้มีมานานแล้ว แต่ดูเหมือนผู้บริหารหลายๆที่จะเพิ่งตื่นตัวกับเรื่องนี้กัน หลังจากมีกรณีทรูทำข้อมูลลูกค้าหลุดออกมาสู่สาธารณะ แล้วบอกแบบเหมือนคน IT โง่กันทั้งประเทศว่า มันเป็นเรื่องทางเทคนิค เราขอไม่ก้าวล่วงไปถึงเรื่องนั้นแล้วกัน เพราะสองสามวันที่ผ่านมา ผมเจอเรื่องยุ่งๆเกี่ยวกับเจ้า Cloud เลยจะนำมาแชร์ให้ได้อ่านกัน

เคสที่ผมเจอ ถ้าจะยกตัวอย่างง่ายๆ ให้ท่านลองนึกถึงโทรศัพท์ไอโฟน หรือแอนดรอยด์ของท่าน สมมุติว่าท่านเป็นคนชอบถ่ายรูป มีสิ่งหนึ่งที่คนที่ถ่ายรูปเยอะๆนิยมที่จะใช้กันคือ การฝากรูปไว้บน Cloud ไม่ว่าจะเป็น iStore, Dropbox หรือ Google Drive เพื่อที่ว่า ไม่ว่าเราจะทำมือถือหาย หรือเปลี่ยนมือถือ รูปที่เราถ่ายเอาไว้ มันจะไม่หายหรือสาปสูญตามมือถือเครื่องเก่าของเราไปด้วย

ลองนึกภาพว่า วันนึง Apple บอกว่า ฉันทำ iStore ไปก็ไม่คุ้มแล้วจะปิดบริการตรงนี้แล้วล่ะ ข้อมูลของคุณจะหายไปในวันที่เท่านี้นะ ชีวิตมีปัญหาเลยสิครับ กับการต้องย้ายข้อมูลจากที่นึงไปสู่ที่นึง  สิ่งที่เราคิดว่าฝากไว้แน่นอนว่ามันจะไม่มีทางหายไปจนกว่าโลกนี้จะแตกมันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วสิ

รูปหายไม่เท่าไหร่ครับ แต่ลองเปลี่ยนจากรูป เป็นข้อมูลสำคัญของบริษัทของคุณ ระบบบัญชี ระบบ POS หรือแอพพลิเคชั่นที่คุณให้บริการอยู่ บอกได้คำเดียวว่า วิบัติกว่ากันเยอะครับ ซึ่งแม้แต่ตัว Cloud เอง ยังไม่สามารถรับรองคุณได้ 100% ว่าข้อมูลของคุณจะไม่สูญหายไปแน่นอน หรืออยู่ดีๆเจ้าของบริการ Cloud จะไม่ปรับเปลี่ยนบริการของตัวเอง ผมเจอมาแล้ว T T

เรื่องที่ร้ายแรงกว่า ผู้บริหารที่ไม่มีความรู้ทาง IT มักเข้าใจว่า การเอาข้อมูลไปฝากอยู่บนที่ที่เดียวที่เรียกว่า Data Center แล้วจบ แค่ไม่ต้องตั้ง Server ไว้ในบริษัท ไม่ต้องจ้างหน่วยรักษาความปลอดภัยค่าตัวแพงมาดูแลก็พอ แต่จริงๆแล้วมันไม่จบเท่านั้น โลกนี้ไม่มีอะไรที่ปลอดภัย 100% เราไม่สามารถบอกได้ว่า แผ่นดินจะไหว เครื่องบินจะมาชนตึกมั๊ย หรือประเทศไทยจะเล่นกีฬาสีแล้วเผาตึกที่เราฝากชีวิตไว้หรือเปล่า

การทำ Cloud ที่ดีจึงควรจะมี Data Center หลายๆแห่ง ยิ่งมากแห่งยิ่งดี เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยให้ Server แต่ละแห่งทำการประมวลข้อมูลให้เหมือนกันตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ฝากไว้ที่ Data Center ที่เดียวแล้วจบอย่างที่เข้าใจกันมา แต่แน่นอน ยิ่งฝากหลายแห่ง เงินทุนที่ต้องใช้ก็มากตาม คนที่ทำก็มีแต่บริษัทขนาดใหญ่

ลองประเมินความเสี่ยงองค์กรของคุณดูนะครับว่า รับความเสี่ยงได้มากน้อยขนาดไหน แล้วมันจำเป็นต้องทำจริงๆมั๊ย อีกเรื่องคือ คุณใช้ cloud ให้คุ้มค่าจริงๆอย่างที่คุณลงทุนไปจริงหรือเปล่า หรือมี Cloud แต่พนักงานยังต้องตอกบัตรมานั่งทำงานในบริษัท แถมต้องเสียค่าเน็ทเวิร์กเดือนละแพงๆ

แล้วจะใช้งานยังไงให้คุ้ม Application for Business ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับคุณและพนักงานได้นะ ลองอ่านเพิ่มเติมที่ บทความนี้ (โฆษณาซะเลย) หรือจะส่งอีเมลล์เข้ามาพูดคุยกันที่ฟอร์มด้านล่างก็ได้เช่นกันครับ

    Written By

    Yodfah

    Head of Information Technology at Thai Optical Group plc., Digital Transformation Consultant, Crypto Bagman creator และ ผู้แปลเนื้อหาเกมและแอดมิน Pokémon Go Thailand League