ความเดิมตอนที่แล้ว ยุคของ Steve Austin VS Vince McMahon เป็นยุคที่ทำเงินสูงสุดในประวัติศาสตร์ของวงการมวยปล้ำ the Rock ถือกำเนิดขึ้นมา พร้อมกับการสิ้นสุดยุคที่พระเอกจะต้องทำแต่ความดี ผู้ร้ายทำแต่ความชั่ว ยุคของคนสีเทาๆดำเนินต่อไป

ด้วยความที่มวยปล้ำเป็นการแสดงกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายหนักมาก ตัวละครเด่นๆในยุคดังกล่าวเริ่มบาดเจ็บไปกันทีละคนสองคน สมาคม WCW ถูก WWE ซื้อกิจการ จนทำให้มวยปล้ำเหลือเพียงสมาคมเดียวจนหมดคู่แข่ง ความน่าสนใจมันน้อยลง เพื่อให้อยู่รอด กลุ่มคลื่นลูกใหม่จึงถือกำเนิดขึ้น

ด้วยความเฟื่องฟู WWE ได้ตั้งสถาบันพัฒนานักมวยปล้ำขึ้นมาเอง ทำให้ในวันที่นักมวยปล้ำกลุ่มนี้ก้าวขึ้นมาในจอโทรทัศน์ ภาพของความเป็นเด็กปั้นจะเกิดขึ้น ซึ่งจะต่างจากในอดีตที่นักมวยปล้ำจะต้องพเนจร สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองจากโรงยิมหลังหมู่บ้าน นอกจากนี้ เด็กปั้นทั้งหลาย ยังมีหลายคนที่เป็นลูกหลานของนักมวยปล้ำดัง ในขณะเดียวกัน ผลจากยุคของ Steve Austin มวยปล้ำกลายเป็นเรื่องของการเน้นเนื้อเรื่องมากกว่าการแสดงศิลปะมวยปล้ำที่สนุกสนานแบบแต่ก่อน ความนิยมจึงเริ่มตกลงมาอย่างช้าๆ

อย่างไรก็ดี WWE ทำการปรับตัวเองอีกครั้งด้วยหลักการแบบง่ายๆ คนที่ดูมวยปล้ำในช่วงยุคทองเริ่มมีลูกกันแล้ว WWE จึงเริ่มปรับตัวกลับมาหาเด็กๆมากขึ้น คาแรกเตอร์ของ John Cena เอาดีๆก็คือซูปเปอร์แมน จอมพลังสุดหล่อที่คอยต่อกรกับคู่แข่งอย่าง Randy Orton ลูกหลานนักมวยปล้ำดังที่พร้อมจะรอบกัดทุกคน หรือ Edge จอมฉวยโอกาส

ผมใช้คำว่าคู่แข่งเพราะภาพของการแข่งขัน มันจะไม่ใช่พระเอกต่อสู้กับเหล่าร้ายอีกต่อไป แต่เป็นลักษณะของความบาดหมางในเชิงของการแข่งขันมากขึ้น และสิ่งที่ทุกคนต้องมีไม่ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไร คุณจะต้องแสดงศิลปะมวยปล้ำได้ดีกว่ารุ่นพี่อย่าง Steve Austin หรือ the Rock โดยที่รุ่นพี่อย่าง Triple H หรือ the Undertaker กลายเป็นตำนานที่นักมวยปล้ำรุ่นใหม่ อย่างจะได้ขึ้นไปอยู่บนเวทีด้วยกันซักครั้งในชีวิต

สิ่งที่พิเศษอีกอย่างคือ คุณสามารถจะเลือกเชียร์ใครก็ได้ คาแรกเตอร์อย่าง John Cena ถึงแม้ว่าเด็กๆทุกคนจะชอบ แต่กับผู้ใหญ่แล้ว Cena จะได้รับเสียงโห่มากกว่า กลับกัน Edge อาจจะได้รับเสียงเชียร์จากผู้ใหญ่มากกว่า Cena ด้วยซ้ำ

เป้าหมายใหม่ของนักมวยปล้ำคือ การได้รับความยอมรับ ไม่ใช่ได้รับเสียงเชียร์หรือโห่เหมือนสมัยรุ่นคุณปู่อีกต่อไป คุณไปชมมวยปล้ำคือ คุณไปดู Cena ดู Orton ดู Edge ดู the Miz คุณไม่ได้ไปเพื่อไปดูซูปเปอร์ฮีโร่ และนักมวยปล้ำที่จะประสบความสำเร็จ ก็คือคนที่คนดูให้การยอมรับว่าเขาเป็นนักมวยปล้ำที่ดีนั่นเอง

ในวงการหนัง ถ้าจะเปรียบเทียบคงต้องยกกรณี Marvel Cinemetrix Universe กับ DC Extended Universe ทำไมเจ้าแรกประสบความสำเร็จ ทั้งที่ถ้าเทียบกันตัวต่อตัว คนรู้จัก ซูปเปอร์แมนกับแบทแมนมากกว่ากัปตันอเมริกาด้วยซ้ำ แต่เพราะคนให้การยอมรับว่า Marvel ทำหนังแต่ละเรื่องออกมาได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักเราจะเคยรู้จักหรือไม่รู้จักมาก่อน ทุกเรื่องต้องดีที่สุด ในขณะที่ DC ยังเน้นขายตัวละครที่คนรู้จักอยู่แล้ว ด้วยพล๊อทเรื่องที่ราบเรียบ สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง

ถ้าเปรียบเทียบกับการเมือง ก็คือ คุณไม่จำเป็นต้องดีเลิศแต่คุณต้องได้รับการยอมรับ และนี่จะเป็นมาตรฐานบทใหม่ของนักการเมืองในอนาคต คุณจะเคยเป็นใครหรืออาชีพอะไรมาก็ได้ สิ่งนี้พรรคการเมืองในไทยยังไม่ไปไม่ถึงมากนัก ถ้าจะมีใครที่ทำก็คือ พรรคอนาคตใหม่ที่หลายคนให้การชมชอบนั่นเอง แต่สิ่งที่อนาคตใหม่ยังทำไม่ได้คือ ยังทำให้คนอีกจำนวนมากยอมรับในตัวพรรคไม่ได้ ซึ่งวันไหนทำได้จะเป็นมิติใหม่ของเมืองไทยเลยล่ะ

แต่ยังไม่จบครับ วันที่เทคโนโลยีก้าวเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อย ชีวิตของนักมวยปล้ำทุกคนก็เปลี่ยนไป

Written By

Yodfah

Head of Information Technology at Thai Optical Group plc., Digital Transformation Consultant, Crypto Bagman creator และ ผู้แปลเนื้อหาเกมและแอดมิน Pokémon Go Thailand League