[spoiler] ความพอเพียง แบบเข้าใจง่ายบน Netflix

ผมเคยเห็นหลายคน อาจจะยังมีความสงส้ยว่า ความพอเพียงมันใช้ได้จริงเหรอ

จริงๆแล้ว ไม่ได้มีแค่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ให้คำสอนเรื่องนี้ แต่ยังมีเรื่องนี้แบบเข้าใจง่ายปรากฏอยู่ใน Netflix ด้วย

สารคดีเรื่องนี้ชื่อว่า Minimalist Less is Now เป็นเรื่องของชายสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ชายหนุ่มคนแรก
สูญเสียคุณแม่ไปแล้วต้องไปเก็บของที่บ้านคุณแม่ แล้วไปเจอว่า แม่เก็บของไว้เยอะเต็มบ้าน คิดถึงการเก็บของ
ของคุณแม่วัยเก๋าทุกคนก็ประมาณนั้นครับ เก็บทุกอย่าง จานชามต้องเยอะ ผ้าเช็ดจานเพียบ แต่ไม่เคยใช้

แต่มีกล่องหนึ่งที่ฝุ่นจับอยู่ใต้เตียงของแม่ ที่แม่แทบไม่เคยเปิดดูเลย มันคือ กระดาษที่เขาเคยเขียน
รูปวาดที่เขาเคยเขี่ยไว้ ABC ที่เขาเคยหัด ทุกอย่างที่คุณแม่เก็บไว้เป็นความทรงจำเกี่ยวกับลูกชายอันเป็นที่รักของเธอ

 

เขาซึ่งในตอนนั้น เป็นพนักงานมืออาชีพ รายได้สูง ตำแหน่งการงานดี แต่ไม่มีความสุขในชีวิตเลย คิดขึ้นมาได้ว่า
จริงๆแล้ว ความสุข ความทรงจำ มันอยู่ในตัวเรา ไม่ใช่ในสิ่งของ

โอเคล่ะ เขาไม่ได้ลาออกจากงานในทันทีหรอก แต่เขาเริ่มกลับไปบ้านและเริ่มโยนของที่เขาไม่ได้ใช้ทิ้ง
วันละชิ้นสองชิ้น ห้าชิ้น สิบชิ้น จนวันหนึ่งบ้านโล่ง และเขารู้สึกมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น

 

เพื่อนสนิทของเขา ประสบปัญหาเดียวกัน เห็นเพื่อนดูมีความสุขเลยถามเพื่อนตรงๆว่า เอ็งไปทำอะไรมาวะ
เขาเลยบอกว่า ตอนนี้เราอยู่ด้วยวิถี minimalism เว่ย ฮะ แม่งคืออะไรวะ เอางี้เรามาทดลองกัน

 

ทั้งสองช่วยกันแพ็คของในบ้าน(เพื่อนสนิท) ให้เหมือนกำลังจะย้ายบ้าน แล้วทดลองว่าจะเอาของออกจากกล่อง
เฉพาะของที่ต้องใช้เท่านั้น

 

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ จากของ 20-30 กล่อง สามสัปดาห์ต่อมา เขาได้เอาของออกจากกล่องรวมกันได้ไม่เกิน 20% เท่านั้น
ที่เหลือแทบไม่ได้เอาออกมาจากกล่องเลย

 

หลังจากนั้นทั้งคู่เขียนหนังสือเรื่องนี้ขาย และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เลิกขวนขวายหางานที่เงินเดือนเยอะขึ้นแต่ไม่รู้ว่า
ต้องเยอะเท่าไหร่ถึงจะซื้อของที่เขาอยากได้ได้พอ

 

ถึงแม้รายได้จากการเขียนหนังสือในตอนนี้อาจจะเยอะกว่าทำงานประจำแล้วด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับใช้เงินน้อยลง

 

จริงๆแล้วทุกวันนี้ มันง่ายมากที่จะอยากได้โน่นได้นี่ โทรทัศน์, Google หรือ Facebook ทำหน้าที่ของมันได้ดีมาก
และมันก็ไม่ได้ผิดที่เราจะฟุ่มเฟือย ชายทั้งคู่ก็ยังกินเบียร์ มีสมาร์ทวอช มีเครื่องชงกาแฟหรูในบ้าน แต่ในการใช้เงินของทั้งคู่
มันคือการใช้เงินตามฐานะ มีความสุขกับชีวิต ไม่ใช่จากทรัพย์สินที่ตัวเองมี

 

ลองเข้าไปรับชมดู มีประโยชน์ มีสาระดีมากครับ