HBAR สดใหม่ไวกว่าบล๊อกเชน
Hedera Hashgraph หรือสิ่งที่ทุกท่านรู้จักกันในนามของ HBAR ไม่ใช่บล๊อกเชน แต่เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการเก็บข้อมูลที่ทำให้บล๊อกเชนที่ถูกพัฒนาให้ทำงานเร็วที่สุดยังต้องอายเมื่อเจอความเร็วของ HBAR โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Hashgraph
สิ่งที่ Hashgraph ทำต่างจาก Blockchain คือ
- Blockchain จะทำการตรวจสอบธุรกรรมไปตามคิว และการจัดเก็บข้อมูลจะเป็นบล๊อกเรียงลำดับกันไปทีละบล๊อก โหนดตรวจธุรกรรมทุกโหนดจะทำการตรวจธุรกรรมบล๊อกเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน (ยกเว้น Solona ที่มีการเพิ่มเวลาลงไปในบล๊อก) ในขณะที่ Hashgraph แต่ละโหนดจะตรวจสอบธุรกรรมแบบตรวจธุรกรรมแบบไม่ต้องรอกัน เช่น ข้อมูลชุดแรก อาจจะเริ่มตรวจที่โหนด A เสร็จก่อนแล้ว A แจ้งผลตรวจ B แจ้งผลต่อด้วย C, D ต่อๆกันไป ในขณะที่ข้อมูลชุดที่สอง ไม่ต้องรอให้ชุดแรกตรวจเสร็จ B อาจจะตรวจชุดสองก่อนให้เสร็จ แล้วส่งผล ต่อด้วย D, A, C แจ้งผลต่อ ชุดที่สามก็เช่นกัน C อาจจะตรวจเสร็จก่อน แล้ว D, B, A ค่อยส่งผลตาม
- ทุกโหนดสามารถมองเห็นผลการตรวจธุรกรรมที่เกิดขึ้นในโหนดอื่นๆได้
- ธุรกรรมไม่ต้องเข้าคิว โหนดไหนว่าง ธุรกรรมจะได้รับการตรวจสอบทันที
ข้อดีของ Hashgraph
- ใช้ทรัพยากรในการตรวจสอบธุรกรรมที่น้อยกว่า Blockchain
- ความเร็วในการทำธุรกรรมสูงมากกว่าความเร็วโดยเฉลี่ยของ Blockchain ผู้พัฒนาอ้างว่า โอนสินทรัพย์ได้แบบแทบไม่ต้องรอ
- ค่าธรรมเนียมในการใช้งานธุรกรรม Hashpraph ถูกมาก
ข้อเสียของ Hashgraph
- ยังไม่เป็น Opensource การจะพัฒนาใดๆจะต้องได้รับการอนุญาตจาก Hedera ก่อน รวมไปถึงการตั้งโหนดตรวจธุรกรรม
- ยังไม่ได้รับความนิยมจากด้วยเหตุผลข้อแรก
- ยังจำเป็นต้องพึ่งพิงเน็ทเวิร์กหลักของ Hedera จึงยังไม่ใช่ Decentralized ที่แท้จริง
- ยังเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดในปี 2021 ยังต้องรอดูผลของการโจมตีของแฮ็กเกอร์อีกระยะว่า Hashgraph มีจุดอ่อนหรือไม่
สำหรับเหรียญ HBAR มีเพดานจะนวนสูงสุดอยู่ที่ 5 หมื่นล้านเหรียญ โดยปัจจุบันถูกปล่อยออกมาประมาณ 7 พันล้านเหรียญ โดยคาดว่าปี 2025 จะเหรียญทั้งหมด 1.7 หมื่นล้านเหรียญอยู่ในระบบ ดูจากวิธีการระบายเหรียญออกทำให้ไม่แปลกที่ราคาจะไม่ไปไหน ถึงแม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า Blockchain แต่ด้วยความที่ยังไม่ปล่อยออกมาเป็น Opensource ทำให้ยังไม่มีนักพัฒนาอิสระเข้าไปข้องเกี่ยว การใช้งานจึงยังค่อนข้างจำกัด ต้องดูว่า Hedera จะวางตัวเข้าตลาดแบบไหน ผมเดา ย้ำว่าเดาว่า Hedera อาจจะวางตัวเป็นแพลทฟอร์มระดับพรีเมี่ยม ให้องค์กรใหญ่ๆใช้งาน ก็ต้องดูต่อไปว่าใช้งานกับ Consumer หรือใช้งานแค่ในระดับองค์กรเป็นหลัก แต่ดูแล้วทีมบริหารยังไม่ได้เน้นเรื่องการเติบโตของราคาเหรียญมากนัก ยังเหมาะจะยืนมองอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ จำนวนเหรียญที่เยอะและยังใช้เวลาอีกนานกว่าจะชนเพดาน เป็นอีกเรื่องที่ไม่น่าจะทำให้ราคาเหรียญไปได้ไกล นอกจากใครอยากเก็บไว้เป็นสมบัติระยะยาวมากๆ ระดับ 20 ปีขึ้นไป อันนั้นเก็บได้ครับ ยังไงมูลค่าก็สูงกว่าราคาในปี 2021 แน่นอน
Leave a Comment
You must be logged in to post a comment.