ถ้าพูดถึงประเทศจีนแล้ว ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง และนโยบายของรัฐบาลที่ไม่มีใครเหมือนทำให้เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีต่างๆแล้ว สุดท้าย จีนมักจะพัฒนาขึ้นมาใช้เป็นของตัวเอง ไม่สนใจยักษ์ใหญ่ฝั่งตะวันตกซักเท่าไหร่

Blockchain และ Smart Contract ก็เช่นกัน ไม่แปลกที่จีนจะพัฒนาขึ้นมาเอง โดยไม่สนใจชาวโลก หนึ่งในแพลทฟอร์ม Smart Contract ที่ผุดขึ้นมาคือ Neo ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน และ People’s Bank of China (PBOC) อีกด้วย

สิ่งที่ Neo ทำได้ดีกว่า Ethereum ในฐานะแพลทฟอร์มที่เกิดขึ้นมาทีหลังคือ การใช้งาน Proof of Stake โดยการนำเหรียญ Neo มาทำการ Stake เพื่อรับเหรียญ Neo Gas สำหรับใช้เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนแพลทฟอร์ม โดยเหรียญ Neo จะทำหน้าที่แทนสิทธิในการลงคะแนนเพื่อกำหนดทิศทางของแพลทฟอร์มเป็นอีกหนึ่งหน้าที่

จุดเด่นของ Neo

  • สามารถถือ Neo เพื่อรับปันผลเป็นเหรียญ Neo Gas ได้ ด้วยอัตราปันผลที่ค่อนข้างดี
  • ความเร็วในการทำธุรกรรมสูงกว่า Ethereum
  • ภาษาที่ใช้ในการพัฒนาเป็นภาษาพื้นฐานอย่าง Python
  • รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน

จุดอ่อนของ Neo

  • ความนิยมยังอยู่แค่ในประเทศจีน ยังไม่สามารถเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ตลาดโลกแข่งกับผู้เล่นรายอื่นได้เลย
  • เหรียญ Neo ต้องซื้อเต็มหน่วยเสมอ ไม่สามารถแบ่งจุดทศนิยมได้
  • นโยบายของรัฐบาลจีนอาจทำให้แพลทฟอร์มได้รับผลกระทบ
  • เหรียญ Neo ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกมาในตลาด ครึ่งหนึ่งถูกขายทอดตลาด อีกครึ่งหนึ่งทีมพัฒนาแพลทฟอร์มจะนำไปลงทุน ซึ่งอาจทำให้มีผลกับราคาในอนาคต

ถ้าใครชอบลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นอนาคตบนจีนแผ่นดินใหญ่ Neo เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่คุณสามารถเลือกลงทุนได้ แต่ทั้งนี้ต้องติดตามข่าวนโยบายของรัฐบาลจีนที่มีต่อ Blockchain อย่างใกล้ชิด

Written By

Yodfah

Head of Information Technology at Thai Optical Group plc., Digital Transformation Consultant, Crypto Bagman creator และ ผู้แปลเนื้อหาเกมและแอดมิน Pokémon Go Thailand League